รีวิว Behind Every Star
รีวิว Behind Every Star ตะลุยวงการบันเทิงแสนวุ่นวายไปกับ ผู้จัดการซุปตาร์ว้าวุ่น ซีรีส์ดราม่าคอมเมดี้เรื่องล่าสุดทาง Netflix ที่จะพาไปเกาะขอบโต๊ะทำงานของผู้จัดการดารา เผยทุกซอกทุกมุมของอาชีพนี้ที่ไม่มีใครเคยเห็น นำทัพความป่วนโดย อีซองจิน ควักซอนยอง ซอฮยอนอู และ จูฮยอนยอง งานนี้รับประกันความฮาชนิดเตรียมผ้าอ้อมกันปัสสาวะเล็ดเอาไว้ได้เลย
ซีรีส์เล่าถึงเรื่องราวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายใน Method Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทการจัดการศิลปินขนาดใหญ่ในวงการ โดยจะเจาะลึกทั้งเรื่องราวของชีวิตการทำงาน, ความต้องการ และชีวิตส่วนตัวของบรรดาผู้จัดการส่วนตัวของคนดัง รวมรีวิวซีรี่ย์เกาหลี
รีวิว Behind Every Star เนื้อเรื่อง
ได้เวลามาดื่มด่ำกับชีวิตคน(เบื้องหลัง)วงการบันเทิง ที่ไม่ได้บันเทิงอย่างที่คุณคิด เพราะนี่คือชีวิตของเอเยนซี่ชื่อดัง Method Entertainment ที่ถือว่าบริษัทดูแลศิลปินคนดังอันดับต้น ๆ ของวงการ ที่ดูแลทั้งเรื่องอาชีพการงาน, ชีวิตส่วนตัว และแพสชั่นของพวกเขา
โดยที่มี มาแทโอ ผู้จัดการระดับมืออาชีพ ที่ถือครองตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทเอาไว้อีกมือ เขาเป็นคนสมาร์ทและดูดี เขาเหมือนเกิดมาเพื่อเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ โดยที่ไม่คิดใช้กลอุบายใด ๆ เพื่อให้ได้ซึ่งมาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่จะต้องได้มาด้วยวิธีที่ขาวสะอาดในรูปแบบของเขาเอง
ซึ่งเขาก็ได้ผู้ช่วยที่เหมือนเป็นคู่กัด เธอก็คือ ชอนเจอิน ที่เป็นผู้จัดการมือฉมังมายาวนานถึง 14 ปี เธอเป็นงานแทบจะทุกอย่าง และตอนนี้ก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าทีมผู้จัดการประจำเอเยนซี่ เป็นคนบ้างาน มีทักษะในการแข่งขัน
ถึงจะเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่เธอก็มีเหตุผลเสมอ แม้จะพยายามทำอะไรให้สำเร็จแบบไม่ได้คิดให้รอบคอบเท่าไหร่นัก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เธอกับแทโอมักจะขัดแย้งในเรื่องการงานด้วยกันอยู่บ่อย ๆ
และกาวใจระหว่างคนคู่นี้ก็คงจะเป็น คิมจองดน เพื่อนสนิทของเจอิน ที่เป็นคนสุภาพใจเย็น มีตำแหน่งหน้าที่ในระดับเดียวกันกับเธอ ในการจัดการดูแลทีมผู้จัดการของเอเยนซี่แห่งนี้ โดยที่มี โซฮยอนจู สาวผู้จัดการดารามือใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่น้อย
และเธอก็มักจะเผชิญหน้ากับปัญหาในการจัดการอยู่บ่อยครั้ง เธอมีความฝันที่อยากจะเติบโตในสายอาชีพนี้ และสั่งประสบการณ์ให้ตัวเองเป็นมืออาชีพให้ได้ในที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะยากและอยากจะถอดใจตั้งแต่เริ่มต้นก็ตาม
Behind Every Star แนะนำตัวละคร
อีซอจิน รับบทเป็น มาแทโอ
หนุ่มใหญ่ที่ทำงานเป็นผู้จัดการนักแสดงคนดังระดับมืออาชีพ และยังควบตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไปของ Method Entertainment ด้วยในเวลาเดียวกัน เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ลูกน้องหลงรัก เป็นจอมวางแผน เก่งกาจด้านการวางกลยุทธ์
รับมือกับปัญหาอย่างมีสติและชาญฉลาดลึกล้ำ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ให้รางวัลต่อความสำเร็จของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เขาไม่เคยรีรอที่จะใช้ทุกยุทธวิธีเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ รักและทุ่มเท ปกป้อง เมธอด เอนเตอร์เทนเมนต์ มากๆ ชนิดที่ใครก็คาดไม่ถึง
ควักซอนยอง รับบทเป็น ชอนเจอิน
สวย แซ่บ เจ้าชู้ยืนหนึ่ง ขี้อ่อย หยอดเก่ง จีบเก่ง เป็นจอมบริหารเสน่ห์ และเปลี่ยนผู้เป็นว่าเล่น เจอินทำงานเป็นผู้จัดการซุปตาร์มานานกว่า 14 ปี เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้จัดการภาคสนามที่คอยตามติดไปดูแลเทคแคร์นักแสดงในกองถ่าย
จนกลายมาเป็นหัวหน้าทีมผู้จัดการ ชอบการแข่งขันและบ้างาน รวมถึงยังเป็นคนหัวร้อน เป้าหมายมีไว้ให้เธอพุ่งชนโดยไม่คิดให้รอบคอบหรือจะมีผลเสียอะไรตามมา เป็นไม้เบื่อไม้เมากับมาแทโอ มีเรื่องงัดข้อ ขัดแย้งกันเป็นหย่อมๆ
ซอฮยอนอู รับบทเป็น คิมจุงดน
เพื่อนซี้เพื่อนเลิฟของ ชอนเจอิน ขนาดมีการขอบริจาคสเปิร์มกันคิดดู ทำงานในตำแหน่งเดียวกันนั่นก็คือหัวหน้าทีมผู้จัดการ แต่มีนิสัยต่างจากเพื่อนสนิทจอมเจ้าชู้อย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นคนที่อ่อนโยน จิตใจดี เข้าอกเข้าใจนักแสดงที่ดูแล และเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องในทีมเป็นอย่างดี
จูฮยอนยอง รับบทเป็น โซฮยอนจู
ผู้จัดการน้องใหม่ไฟแรงในทีมของชอนเจอิน ที่มาพร้อมกับความลับเรื่องชาติกำเนิด ฉลาด ขยัน มุ่งมั่นตั้งใจ เอาตัวรอดเก่ง และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มักจะก่อปัญหาให้ปวดหัวโดยไม่คาดคิดเสมอ แต่เธอค่อยๆ เรียนรู้จนเติบโตเป็นผู้จัดการที่มีความเป็นมืออาชีพอย่างที่ใฝ่ฝัน โดยมี มาแทโอ เป็นไอดอล
ร่วมด้วย
ชิมโซยอง รับบท ชิมมยองแอ
คิมกุกฮี รับบท ยูอึนซู
ฮวังเซอน รับบท คังฮีซน
คิมแทโอ รับบท ชเวจินฮยอก
ชเวยอนกยู รับบท ชเววอนแจ
ชิมโซยอง รับบท จางมยองแอ
อีฮวังอึย รับบท ประธาน วังแทจา
โนซางฮยุน รับบท อีซางอุค
ชินฮยอนซึง รับบท โกอึนกยอล
คิมวอนฮี รับบท โจกีบง
มุนฮีกยอง รับบท คังกยองอ๊ก
ฉากหน้าเปล่งประกาย เบื้องหลังวุ่นวายเหมือนตายวันแรก
Behind Every Star จัดเป็นซีรีส์ตีแผ่อาชีพซึ่งเป็นทางถนัดของฝั่งเกาหลีอยู่แล้ว จนถึงครั้งนี้กับการหยิบยก ผู้จัดการศิลปิน หนึ่งในงานที่หลายคนรู้จักดีแต่ไม่เคยสัมผัสเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างเต็มรูปแบบ รู้เพียงว่าพวกเขาทำหน้าที่ดูแลคนดังตั้งแต่หัวจรดเท้า
คอยรักษาภาพลักษณ์ให้ดูดีอยู่เสมอต่อหน้าสาธารณะชน แต่หารู้ไม่ว่ากว่าที่ดาราหนึ่งคนจะเฉิดฉายได้ขนาดนั้น เหล่าผู้จัดการต้องวิ่งเต้นหัวทิ่มหัวตำเพื่อจัดการทุกขั้นตอนให้ราบรื่น นี่จึงเป็นโอกาสดีที่ซีรีส์จะพาเราไปทำความรู้จักกับแวดวงนี้ให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ตอนแรกที่ผ่านไป ผู้จัดการซุปตาร์ว้าวุ่น กล่าวถึงกรณีนางเอกในสังกัดที่ถูกเทงานเพราะอายุของเธอมากเกินไป ทว่ามันกลับสร้างผลกระทบไปทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสัญญาโฆษณา
สปอนเซอร์ รวมทั้งสภาพจิตใจของนักแสดงเองก็ตาม การรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นกะทันหันเช่นนี้จึงเป็นทักษะสำคัญที่ผู้จัดการดาราควรต้องมีติดตัว
นอกจากต้องวางแผนแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าแล้ว พวกเขายังต้องเป็นที่พึ่งพาให้กับดาราด้วยเช่นกัน เชื่อว่าตลอดทั้งเรื่องจะเกิดเรื่องราวอลหม่านให้ต้องคอยตามเช็ดตามล้างกันอีกมากมาย ส่วนจะมารูปแบบไหนโปรดเตรียมใจรับแรงกระแทกไว้ให้ดี
รีวิว Behind Every Star เรื่องคนอื่นสุดปัง เรื่องตัวเองพังไม่เป็นท่า
อย่างที่บอกว่า Behind Every Star มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพผู้จัดการศิลปินเป็นหลัก พวกเขาจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องคนอื่นแต่ล้มเหลวในเรื่องของตัวเอง ความน่าสนใจที่ซีรีส์ได้หว่านไว้ตั้งแต่ตอนแรกนั่นคือเหตุการณ์ที่ประธานบริษัท เมธอด เอนเตอร์เทนเมนต์
ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ความวุ่นวายในองค์กรจึงเสมือนคลื่นยักษ์ที่ซัดเข้ามาฉับพลันชนิดที่เหล่าพนักงานไม่ทันรับมือ น่าติดตามว่าบรรยากาศในบริษัทจะดำเนินไปในทิศทางไหน สถานการณ์จะบีบให้เพื่อนร่วมงานกลายเป็นศัตรูกันหรือไม่ พวกเขาจะรักษาบริษัทที่ไร้เงาคนคุมบังเหียนไว้ได้อย่างไร เป็นหน้าที่ของผู้ชมที่ต้องจับตาดูต่อไปจนถึงตอนจบ
นอกจากต้องเอาตัวรอดจากสงครามการเมืองในบริษัทแล้ว ชีวิตส่วนตัวของเหล่าผู้จัดการดารายังเป็นอีกหนึ่งเส้นเรื่องที่ทิ้งปมไว้ได้น่าติดตาม โดยเฉพาะความลับระหว่าง มาแทโอ กับ โซฮยอนจู ที่อาจเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้งไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในบริษัทที่อาจมีเรื่องราวให้ต้องปรับจูนกันต่อไป
ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสาระสำคัญอันเกิดจากการเลือกหยิบเอาชีวิตมนุษย์ออฟฟิศมาตีแผ่ทั้งแง่มุมอาชีพและชีวิตนอกเวลางานไปพร้อมกัน ผนวกกับการเล่าเรื่องที่คลุกเคล้าระหว่างรสชาติดราม่ากับคอมเมดี้ได้อย่างกลมกล่อมแล้ว ทำให้เรื่องนี้ดูมีเสน่ห์น่าติดตามแบบไม่มีเบื่อนั่นเอง
ความรู้สึกของผู้เขียนหลังรับชม
เรื่องนี้ทำมาได้แปลกแตกต่าง ที่มันส์เข้าไปอีกคือ บางเรื่องก็เป็นเรื่องจริงของนักแสดง บางเรื่องก็เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาของนักแสดง ส่วนนักแสดงที่มาแสดงในเรื่องก็มีทั้งเป็นตัวแสดงของเรื่อง แสดงเป็นตัวเองและเป็นเรื่องจริง หรือแสดงเป็นตัวเองแต่เป็นเรื่องแต่งขึ้น ผสมปนเปกันจนแทบแยกไม่ได้ ณ จุดนี้คนเขียนบทถือว่าเก่งทีเดียว
ฉากที่ตลกที่สุดฉากนึงคือเมื่อนักแสดงจริงๆ ดันต้องมาเข้าฉากกับนักแสดงอีกคนที่เล่นด้วยกันในเรื่องดังที่เอามาเป็นประเด็น แต่เรื่องนี้ดันเล่นเป็นคนอื่น ก็มีแซวกันว่าหน้าคุ้นๆเนอะ ดูแล้วฮาดี
เรื่องราวของเรื่องนี้จึงมีเรื่องราวของนักแสดงจริงแต่ละตอนที่มาเข้าฉากซึ่งส่วนใหญ่ก็จบในตอน และเรื่องราวของเหล่านักแสดงที่แสดงเป็นพนักงานของเอเจนซี่ ที่มีสารพัดความวุ่นวาย ทั้งความรัก ดราม่า ความตลก ผสมปนเปกันไป
เราชอบที่มันเล่าเรื่องจุกจิกในชีวิตเมเนเจอร์ที่เราอาจจะไม่เคยนึกถึง แต่ส่วนตัวแล้วเรายังไม่รู้สึกว่าเนื้อเรื่อง จังหวะการเล่า หรือแม้แต่ตัวละคร มีเสน่ห์เท่าไหร่ ที่สำคัญคือแต่ละตัวละครดูจะไม่น่าเอาใจช่วยเลยด้วย
ซึ่งมันไม่ใช่ความไม่น่าเอาใจช่วยเพราะ ‘ความเทา’ ของคาแรกเตอร์นะ แต่เป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวละครในเรื่องไม่มีคนไหนน่าคบเป็นเพื่อน หรือเป็นคนที่เรา ‘อยากให้ได้ดี’ เลยมากกว่า และเราหวังว่าปัญหานี้จะค่อย ๆ หายไป เมื่อออกอากาศตอนต่อ ๆ ไป (ไม่งั้นเสียดายคอนเซปต์แย่)