รีวิว Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน
รีวิว Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน ร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิในเมืองไทยจนพุ่งทะยานครองแชมป์อันดับหนึ่งทาง Netflix และติดท็อป 10 นานหลายสัปดาห์ “Juvenile Justice I หญิงเหล็กศาลเยาวชน” ซีรีส์ที่จะเปลี่ยนมุมมองความคิดต่อเยาวชนสู่การเป็น “อาชญากรเด็ก” ซึ่งก่อคดีร้ายแรงไม่แพ้ผู้ใหญ่ ทั้งฆ่าหั่นศพ ค้าประเวณี ค้ายาเสพติด ฉ้อโกง ทำร้ายร่างกาย
ทว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอการชิงไหวชิงพริบ เล่ห์เหลี่ยม หรือกลเม็ดเด็ดใจลูกขุนเหมือนซีรีส์แนว Legal Drama ทั่วไป หากแต่อัดแน่นด้วยเงื่อนปมทางจิตวิทยาและปัญหาครอบครัวที่ซุกไว้ใต้พรมจนเป็นปมชีวิตของเด็ก เล่าเรื่องได้อย่างกระชับ ลึกลับ น่าติดตาม กระทั่งชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามถึงปมในวัยเด็กของตัวเองก็เป็นได้
รีวิว Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน เนื้อเรื่อง
ซีรีส์แนว Courtroom Drama หรือ Legal Drama ว่าด้วยเรื่องราวคดีความในศาลแขวงแผนกคดีอาญาเด็กและเยาวชน เขตยอนฮวาของเกาหลีใต้ เปิดฉากด้วยคดีสะเทือนขวัญ “ฆ่าหั่นศพ” เด็กชายวัย 8 ขวบ
แล้วนำชิ้นส่วนไปซ่อนไว้บนชั้นดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ก่อนที่เด็กชายวัย 13 ปีจะเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้วอ้างว่า เขาเป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพจนกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก รวมรีวิวซีรี่ย์เกาหลี
เผือกร้อนตกไปอยู่ในมือของ “ชิมอึนซอก” (รับบทโดย คิมฮเยซู) ผู้พิพากษาหญิงคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการ เธอผู้มีสีหน้า แววตา และบุคลิกเยือกเย็นดุจราชินีน้ำแข็ง มาพร้อมชื่อเสียงที่เลื่องลือถึงความโหดระดับ 10-10-10 ชิมอึนซอก มีม็อตโตประจำตัวว่า “ฉันเกลียดอาชญากรเด็ก”
นี่เป็นเหตุผลที่เธอไม่เคยปรานีเมื่อต้องขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดีในศาล เพราะเธอมักจะพิจารณาโทษสูงสุดให้กับเยาวชนหลายคดี จนเป็นที่เข็ดขยาดของเหล่าผู้ปกครองและอาชญากรเด็กหลายคน
หากแต่ภายใต้ความเย็นชา จริงจัง และลึกลับ เธอกลับมีปมฝังใจในอดีต ซึ่งทำให้เธอไม่เคยรอมชอมให้กับการกระทำความผิดของเยาวชนเหมือนผู้พิพากษาคนอื่น ๆ ซึ่งมักจะพิจารณาโทษไม่รุนแรงจนทำให้เด็กแสบบางคนมองเห็นช่องโหว่ของกฎหมายเยาวชน (อายุไม่เกิน 14 ปี) เลยทำให้พวกเขาไม่สำนึกผิด
แถมเธอยังเป็นขาลุยลงสนามตามสืบคดีเองไม่ง้อตำรวจ ซึ่งแค่ตอนแรก ๆ เราก็อาจจะถึงกับต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่ออาชญากรเด็กเสียใหม่ บางทีพวกเขาอาจไม่ได้ “ใส ใส ไร้เดียงสา” อย่างที่คิด
ตรงกันข้ามกับผู้พิพากษา “ชาแทจู” (รับบทโดย คิมมูยอล) ผู้มีบุคลิกอบอุ่น อ่อนโยน และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นโดยเฉพาะเยาวชน ทว่าภายใต้ความอ่อนโยนดุจพ่อพระและความเมตตาอารี (จนเราเผลอขยี้ตานึกว่ามีปีกสีขาวอยู่ข้างหลัง)
ผู้พิพากษาชาก็มีปมฝังใจในวัยเด็กที่รุนแรงเช่นกัน นั่นทำให้เขาลุกขึ้นมาปกป้องเยาวชนอย่างสุดความสามารถ แรกทีเดียวผู้พิพากษาชาไม่ค่อยถูกชะตากับการทำงานของผู้พิพากษาชิมเท่าไหร่
จะเห็นได้จากการเปิดฉากด้วยการพบปะเยาวชนพ้นโทษเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใส ในขณะที่ผู้พิพากษาหญิงแกร่งกลับไม่แย่แสและเย็นชาจนเขาไม่พอใจ แต่กลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องทบทวนความคิดตัวเองอีกครั้ง
ถึงกับมองผู้พิพากษาชิมในมุมใหม่และยอมคล้อยตามวิธีการถึงลูกถึงคนชนิดไม่เกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ เพราะเธอพยายามค้นหาความจริงอย่างถึงที่สุดเพื่อคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของศาล ปกป้องเหยื่อ (ตัวจริง) และครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายให้ได้รับความยุติธรรม
การนำเสนอของเรื่อง
ซีรีส์ยังนำเสนอการทำงานของผู้พิพากษาที่ไม่ใช่แค่ยึดหลักตามตัวบทกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทว่าต้องนำหลักจิตวิทยามาประกอบการพิจารณาคดี รวมถึงการตัดสินบทลงโทษที่สมน้ำสมเนื้อเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เกรงกลัวกฎหมาย
ทั้งยังสอดแทรกการกระทำความผิดเล็ก ๆ ในบางตอน อย่างการล้วงกระเป๋า ลักทรัพย์ สูบบุหรี่ และหนีออกจากบ้าน ซึ่งจริง ๆ แล้วพฤติกรรมเหล่านี้อาจลุกลามบานปลายกลายเป็นอาชญากรร้ายในอนาคต
จาก “ฆาตกรหั่นศพ” ถึง “แม่เล้าเยาวชน” รู้เท่าไม่ถึงการได้ผลจริงหรือ?
เมื่อผู้พิพากษาสายโหดและผู้พิพากษาสายเมตตาต้องมาทำงานร่วมกัน พวกเขากลายเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม เพื่อให้ผู้ชมเรียนรู้ปมชีวิตเบื้องหลังอาชญกรเด็กผ่านมุมมองของ 2 ตัวละครหลักคือ “ผู้พิพากษาชา” ผู้เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า เด็ก (บางคน)
พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ หากมีใครสักคนเชื่อมั่นในตัวเขาและพร้อมจะปกป้องคุ้มครองให้ความอบอุ่นเหมือนครอบครัว ขณะเดียวกัน “ผู้พิพากษาชิม” ก็สอนให้เราค้นพบความยุติธรรม ความมุ่งมั่นทุ่มเท ไม่ด่วนสรุป ภายใต้ความเย็นชาเปี่ยมด้วยความเมตตาและมนุษยธรรม ซีรี่ย์เกาหลีสนุกๆ
ซีรีส์จำนวน 10 ตอน ผลงานเขียนบทของ “คิมมินซุก” (เจ้าของผลงาน NoteBook From My Mother) จับมือกับผู้กำกับฯ “ฮงจงซาน” (จากเรื่อง Life, Her Private Life) สะท้อนเบื้องลึกของปมชีวิตอาชญากรเด็กที่มีจุดเริ่มต้นมาจากสถาบันครอบครัว หลายคดียังคุ้น ๆ เหมือนข่าวหน้าหนึ่งบ้านเราอย่าง เยาวชน-ชนแล้วหนี / คดีโกงข้อสอบ / กระทำชำเราหมู่
แม้บางตอนจะไม่เร้าใจเหมือนคดีแรกที่ชูประเด็นจิตเภทและการฆ่าหั่นศพเป็นคดีชวนให้เราเห็นพ้องคล้อยตามว่า
การดำเนินคดีอาญาเด็กและเยาวชนควรเปลี่ยนบทลงโทษให้เทียบเท่ากับผู้ใหญ่ แต่ก็ถือว่าสลับสับเปลี่ยนอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างน่าติดตาม และเล่าเรื่องได้กระชับไม่หนืดเนือย
หลายตอนยังสามารถหยิบยกมาเป็นบทสนทนากับเพื่อน ๆ ได้ด้วยว่า “รู้เท่าไม่ถึงการ”
ยังใช้ได้ผลในสังคมยุคใหม่จริงหรือ? ถ้าอาชญากรเด็กเหล่านั้นต่างก็รู้สึกตัวดี มีเจตนา และบางคนถึงกับมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ หนำซ้ำยังกลับไปทำผิดรูปแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นักแสดงซีรีส์ Juvenile Justice
คิมฮเยซู รับบทเป็น ชิมอึนซอก ผู้พิพากษาระดับหัวกะทิที่มีบุคลิกที่ดูไม่เป็นมิตรกับคนอื่น เธอเป็นคนอารมณ์ร้อนและมีความเกลียดชังต่อผู้กระทำความผิดอายุน้อย
จนต่อมาเมื่อเธอได้รับการแต่งตั้งให้ไปทำงานในศาลแขวงแผนกคดีอาญาเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นเขตอำนาจที่มีอัตราอาชญากรรมเด็กและเยาวชนมากที่สุด ที่นั่นเธอได้ทำลายขนบแบบเดิม ๆ และวิธีจัดการผู้กระทำความผิดที่เป็นเยาวชนด้วยวิธีของเธอเอง
อีซองมิน รับบทเป็น คังวอนจุน ผู้พิพากษาอาวุโสในแผนกคดีอาญาเด็กและเยาวชน ซึ่งเขาก้าวเข้าสู่สายงานอาชีพนี้มานานกว่า 18 ปี และตอนนี้เขากำลังเผชิญกับความรู้สึกขัดแย้งระหว่างความจริงกับความเป็นอุดมคติ
คิมมูยอล รับบทเป็น ชาแทจู ผู้พิพากษาที่ทำงานในแผนกคดีอาญาเด็กและเยาวชน โดยเขาเป็นคนที่แสดงท่าทีที่อบอุ่นซึ่งแตกต่างไปจากการแสดงออกของ ชิมอึนซอ
ที่แสนเย็นชาาอาสาเข้าร่วมการทำภารกิจอันตรายนี้ในขณะที่ตัวเองรู้สึกท้อแท้ที่จะกลับมาทำงานในกระทรวง และ เขาอยากรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์อันตรายที่รออยู่ข้างหน้า
อีจองอึน รับบท นากึนฮี หัวหน้าผู้พิพากษา
รีวิวJuvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน ความรู้สึกหลังชมซีรี่ย์
เนื้อหาหลักของซีรีส์คือการตัดสินคดีความของฝ่ายผู้พิพากษาและการมองถึงปัญหาของอาชญากรเด็กที่ถูกหล่อหลอมให้กระทำสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น ผ่านตัวละครหลักอย่าง ชิมอึนซอก นางเอกของเรื่องที่รังเกียจเด็กพวกนี้เพราะเชื่อว่าพวกเขาไม่มีทางกลับใจและกลับมาทำผิดซ้ำ ๆ อย่างแน่นอน
เรื่องราวแบ่งเป็นคดีละ 1-2 ตอน เปิดเรื่องตอนแรกด้วยคดีฆาตกรรมเด็กประถมยอนฮวาโดยมีคนร้ายคือ แบคซองอู เด็กชายวัย 13 ปีที่ฆ่าหั่นศพเด็กวัย 9 ปี
ซึ่งเขาอ้างว่าตนมีอาการของโรคจิตเภทและมีท่าทีเยาะเย้ยกฎหมายคุ้มครองเยาวชนที่หากอายุไม่ถึง 14 ปีก็ไม่ต้องติดคุก นั่นจึงเป็นคดีแรกที่นางเอกต้องจัดการสั่งสอนให้เขาได้รู้ซึ้งถึงผลที่ตามมา แค่คดีแรกก็ทำให้เราลุ้นและตามเชียร์หนักมาก ชอบคำพูดของนางเอกในตอน 2 ที่ว่า
“ถ้าพวกเขาโตขึ้นแล้วก่อเหตุร้ายแรงกว่าเดิม ถึงตอนนั้นใครจะรับผิดชอบ ต้องทำให้เห็นสิว่ากฎหมายน่ากลัวแค่ไหน ต้องสั่งสอนพวกเขาสิว่าถ้าทำร้ายคนอื่น ผลที่ตามมาคืออะไร ถ้าพ่อแม่พยายามปกปิดเพื่อลูก รัฐบาลและศาลก็ต้องออกโรงสิคะ”
การดำเนินเรื่องรวดเร็วและน่าติดตาม
แทบไม่มีช่วงน่าเบื่อด้วยจำนวนตอนที่พอเหมาะกับคดีที่หลากหลาย มันทำให้เรื่องสนุกลื่นไหล ที่สำคัญเลยคือเราจะได้เห็นการทำงานของเหล่าผู้พิพากษาและผู้ช่วย เสริมด้วยตำรวจ กระบวนการยุติธรรมในขั้นต่าง ๆ
โดยเฉพาะในชั้นศาลที่เต็มไปด้วยชั้นเชิง ตลอดเรื่องจะมีการกล่าวถึงการประท้วงของประชาชนเพื่อให้ยกเลิก พ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯ ด้วย ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญที่ทำให้เราฉุกคิดขึ้นว่าควรจะเพิ่มหรือลดโทษอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับการกระทำของเด็ก?
นอกจากนี้ยังครอบคลุมปัญหาแวดล้อมที่ส่งผลต่อการเติบโตของเยาวชนที่เริ่มตั้งแต่ครอบครัวไปจนถึงภาครัฐ โดยส่วนตัวชอบที่ซีรีส์นำเสนอแง่มุมและความคิดเห็นที่หลากหลายต่อตัวเยาวชนผู้กระทำผิด รวมถึงฝั่งของเหยื่อที่สะเทือนใจมาก ๆ
ขอชื่นชมนักแสดงแต่ละคนที่เล่นได้สมบทบาทตั้งแต่นักแสดงนำไปจนถึงตัวประกอบเลยด้วย ใครที่ชื่นชอบซีรีส์แนวนี้กับการเชือดเฉือนในชั้นศาล ประเด็นสังคมรอบด้าน รวมถึงบทสนทนาที่กระทบใจก็อย่าพลาดเรื่องนี้กันเลย ส่วนตัวแล้วขอยกให้เป็นซีรีส์แนวกฎหมาย-อาชญากรรมอีกเรื่องที่ต้องดูให้ได้!
แถมคะแนนความสนุกแบบเต็ม 100 ตามไปเอาใจช่วยผู้พิพากษาหญิงแกร่งที่ต้องรับมือกับอาชญากรเด็ก(ที่น่าหมั่นไส้)
และพิสูจน์ความจริงในแต่ละคดี จะดุเดือด ดราม่า และซาบซึ้งขนาดไหน? โดยซีรีส์ได้ผู้กำกับ ฮงจงชาน (ผลงาน Life, Her Private Life) และนักเขียนบท คิมมินซุก (ผลงาน Notebook From My Mother) มาร่วมงานกันด้วย