รีวิว ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด ภาค 2 เวอร์ชั่นรีเมค

ซีรี่ย์เกาหลี
สวัสดีครับแฟนๆซีรีย์ทุกท่าน วันนี้ก็จะมารีวิว ซีรีย์เกาหลี เรื่อง ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด ภาค 2 ได้กลับมาสานต่อภารกิจที่ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รับชมกันอีกครั้ง หลังจากที่ทาง netflix นั้นปล่อยให้ทุกคนได้รอนานกันมานับครึ่งปี

ในแผนการที่จะพาทุกคนไปปล้นโรงกษาปณ์ ที่เป็นเขตเศรษฐกิจร่วมเกาหลีเหนือ แล้วเกาหลีใต้ ครั้งนี้นั้นจะไปถึงจุดสิ้นสุดกันตรงไหนล่ะ เตรียมป๊อปคอร์นและของกินได้พร้อมและไปลุยกัน สำหรับการรีวิวความรู้สึกหลังจากที่ ดูหนังออนไลน์ ครั้งนี้จะมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจบ้าง

วีดีโอตัวอย่างจาก Youtube : Netflix Thailand

เรื่องย่อ ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด ภาค 2

Money Heist: Korea 2  เนื้อเรื่องในครั้งนี้นั้นจะให้ทุกคนได้เห็นถึงเหตุการณ์หลังจากที่ กังวลธนาคารที่ใส่ชุดแดงในหน้ากาก ฮาฮเว ที่ได้ดำเนินการในการ ยึดโรงกษาปณ์ในเขต J E A ได้จนสำเร็จแล้ว และได้ทำการที่จะเริ่มต้นแผนการปล้นเงินจำนวนมากถึง 4,000 ล้านล้านเลยทีเดียวตามแผนที่พวกเขาได้เตรียมและฝึกซ้อมกันมาอย่างดี

แต่แล้วในเมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ สถานการณ์มันเริ่มตึงเครียดมากขึ้น พวกตัวประกันที่เขาได้จับไว้และดูแลอย่างดีนะได้ร่วมมือกันที่จะซ้อนแผนในการที่ตลกหนีออกไปจากโรงกษาปณ์แห่งนี้ และรวมถึงการทรยศของพวกแก๊งโจรชุดแดงที่เริ่มมีปัญหาและแตกหักกันเองภายใน แล้วยังไม่พอเท่านั้นพวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆที่ต้องหาทางแก้ไขเฉพาะหน้าโดยที่ไม่ได้อยู่ในแผน เนื่องจากปัจจุบันเขาไม่สามารถติดต่อกับศาสตราจารย์ที่บงการอยู่ภายนอกได้อีกต่อไป

แต่ในเวลาเดียวกันทางด้านของตำรวจอย่างสุดความสามารถในการที่จะเจรจากับแก๊งที่ปล้นโรงกษาปณ์ พร้อมกับที่จะรักษาความปลอดภัยถึงที่สุดให้กับตัวประกันที่ติดอยู่ข้างใน โดยเฉพาะคนสำคัญอย่าง สารวัตรซอนอูจิน ที่รับบทโดย คิมยุนจิน ที่เริ่มจะมีความสงสัยว่าชายที่เธอรักนั้นอาจเป็นศาสตราจารย์คนสำคัญ ที่คอยบงการแทนโจรกรรมครั้งนี้อยู่ในเบื้องหลัง รวมถึงการปรากฏตัวของ โซล ที่รับบท อิมจียอน

หญิงสาวคนหนึ่งที่เข้ามามีส่วนสำคัญในการ ปล้นโรงกษาปณ์ครั้งนี้ ที่จะนำไปสู่การเปิดเผยจุดประสงค์ที่แน่ชัดของกลุ่มโจรเหล่านี้ที่อาจเกิดการพลิกผันของสถานการณ์ จากหน้ามือจนกลายเป็นหลังมือ

ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด ภาค 2

บทบาทของนักแสดงในเรื่อง ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด

  1. ยูจีแท รับบทเป็น ศาสตราจารย์ ผู้ชายที่มีความเฉลียวฉลาดและเรียกได้ว่าเป็นมันสมองของการปล้นครั้งนี้ เขาเป็นเบื้องหลังในการปล้นโรงกษาปณ์ของคาบสมุทรเกาหลี เป็นคนสำคัญของการป้องกันนี้ด้วยการที่รวมเอาเหยื่อจากโลกทุนนิยมมาเพื่อรวมตัวกันและก็อาจจะอยากทำครั้งใหญ่ที่ทำให้ทั้งโลกจดจำ
  2. พัคแฮซู รับบทเป็น เบอร์ลิน อดีตนักโทษคดีค้ายาเสพติดชื่อดังเป็นผู้ที่ได้ฉายาว่าชั่วร้ายที่สุดในเกาหลี เป็นคนเดียวที่เขาสามารถแหกคุกหนีออกมาจากคุก แกชอน ที่ที่เรียกกันว่านรกของจริงของอาชญากรได้สำเร็จ
  3. คิมยุนจิน รับบทเป็น ซอนอูจิน ตำรวจสาวประจำหน่วยปฏิบัติการผู้ซื่อสัตย์ ศาสตราจารย์ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้นได้เข้าหาเธอเพื่อหวังจะฮุกวงในเพื่อลงข้อมูลในการทำแทนโจรกรรมครั้งนี้ให้สำเร็จ
  4. จอนจงซอ รับบทเป็น โตเกียว หญิงสาวจากเกาหลีเหนือ หน้าตาดีที่ถูกนายหน้าโกง จนกลายเป็นผู้ร้ายที่หลบหนีจากคดีการฆ่าและปล้น ก่อนที่เธอนั้นจะเป็นคนสำคัญที่สุดในทีม
  5. อีฮยอนอู รับบทเป็น ริโอ อดีตนักศึกษาแพทย์ที่มีประวัติจากความคาดหวังของครอบครัวเธออย่างมาก โดยเขาได้เข้ามาร่วมทีมปล้นครั้งนี้และมีหน้าที่ในการแฮกเกอร์เจาะระบบข้อมูลต่างๆที่เทพพอสมควร
  6. อีวอนจง รับบทเป็น มอสโก เป็นนักพูดแร่ที่ต้องโทษคดีอาชญากรรม ความหวังของเขาคือการใช้ชีวิตแบบคนปกติกับลูกชายที่ชื่อ เดนเวอร์ ของเขาจึงเลือกทางที่จะทำหน้าที่ในขุดเจาะทางหลบหนีในการปล้นครั้งนี้
  7. คิมจีฮุน รับบทเป็น เดนเวอร์ เขาเป็นนักเลงหัวไม้ ที่มีประวัติพัวพันกับคดียาเสพติดและการพนันรวมถึงการทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง เป็นชายผู้ซื่อตรง มีความเป็นมนุษยธรรม เขาได้เข้าร่วมแผนการปล้นโดยมีปณิธานของผู้เป็นพ่ออย่างมอสโก
  8. จางยุนจู รับบทเป็น ไนโรบี หญิงสาวที่เชี่ยวชาญด้านการปลอมแปลงเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมตัวปลอมธนบัตร ทั้งนี้เป็นทักษะที่เธอนั้นเคยฝึกฝนอย่างชำนาญทานอาชญากรรมระดับชาติมาแล้วหลายครั้ง
  9. อีคยูโฮ รับบทเป็น ออสโล / คิมจีฮุน รับบทเป็น เฮลซิงกิ เป็นคู่สีผู้เติบโตมาพร้อมกันที่ตอนเด็กอาศัยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ทั้งคู่ เขาทั้งสองคนนั้นเปรียบเสมือนแกนหลักที่คอยทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัดและไม่หักหลัง
ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด ภาค 2

ทรชนคนปล้นโลกเกาหลีเดือด มีต้นฉบับจาก La Casa de Papel (2017-2021)

La Casa de Papel (2017-2021) เป็นต้นฉบับซีรีย์สัญชาติสเปน ซึ่งครั้งนี้นั้นจะเป็นการรวมกำลังของผู้กำกับอย่าง คิมฮงซอล และนักเขียนบทชื่อดังอย่าง ยูยงแจ ซึ่งในอดีตนั้นเขาเคยทำงานร่วมกันมาก่อนในซีรีย์เรื่อง Liar Game (2014) และ Pied Piper (2016) ใครที่ไม่เคยดูมาก่อนน้ำสามารถไปหาดูได้เป็น series ที่ทำออกมาดีพอสมควร แต่ในบทความในบทความรีวิวนี้เราจะยังไม่พูดถึง เราจะพูดถึงเนื้อเรื่องที่เราจะรีวิวกันก่อนโดยที่เราจะไม่นำไปเปรียบเทียบกับ Series ต้นฉบับของสัญชาติสเปนนะครับ

ความสำคัญของประเด็นเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือที่ถูกเปิดเผยในครึ่งหลัง

ทรชนคนปล้นโลกเวอร์ชั่นเกาหลี พากย์ไทย 2 ยังคงต้องทำตามแผนที่เขานั้นวางไว้ โดยดำเนินเนื้อเรื่องด้วยฉากหลังเดิมของเขต J E A ชุมชนที่ได้ทดลองสร้างขึ้นตามแบบแผน การรวมชาติของเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือในปี 2025 พื้นที่ดังกล่าวนั้นจึงเป็นพื้นที่ชุมชนทดลอง ที่ได้เปิดให้ทางประชาชนจากฝั่งเหนือ และรวมถึงภาคใต้ สามารถทำการสัญจรไปๆมาๆได้อย่างมีความอิสระ

รวมถึงการใช้เงินตราที่มีสกุลเดียวกันเพื่อการนี้โดยเฉพาะ พื้นที่ดังกล่าวที่เราได้เอ่ยมาข้างต้นได้ถูกประเด็นความสนใจเอาไว้ตั้งแต่ครึ่งแรก และจุดประกายให้ความสงสัยหลายอย่าง อย่างเช่นทำไมถึงเลือกที่จะเล่นกับประเด็นแบบนี้

แต่พอเราได้ดูซีรีย์มาจนถึงครึ่งหลังเราจะเห็นเฉลย ที่ทำให้เรานั้นจะเข้าใจและร้องอ๋อกันยาวๆ เลยทีเดียว

ตอนที่ผมนั้นดูครึ่งแรกผมยังแอบตั้งคำถามหลายๆอย่างในหัวใจ ว่าทำไมซีรี่ย์นั้นต้องลงทุนเล่นใหญ่อะไรเบอร์นั้น จนกระทั่งภาค 2 ได้เฉลยข้อสงสัยที่ผมสงสัยมานาน ที่ปฏิบัติการปล้นโรงกษาปณ์เหนือคาบสมุทรเกาหลี นายแอบซ่อนแง่มุมต่างๆของสังคมเอาไว้เยอะแยะมากมาย เขตเศรษฐกิจร่วมที่ดีนักดีหนาและกล่าวว่าสร้างขึ้นเพื่อสันติภาพระหว่างมนุษย์ทั้งสองฝั่ง พอเอาเข้าจริงๆมาก่อนมันดันเป็นเพียงพื้นที่ที่จะแสวงนี้หาผลประโยชน์อยู่ของคนที่โลภมากเพียงแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นเอง

แต่ทว่าในทางกลับกันนั้น มันจะเป็นกับดักที่ทำให้ผู้คนไปสู่ความล้มเหลวของชีวิตอีกด้วย โดยเฉพาะ หุ่นยนต์ที่ได้ถูกระบบทุนนิยมเข้าเล่นงานจนต้องกลายเป็นคนเลวเป็นอาชญากรได้อย่างที่ไม่มีทางเลือก เป็นการปล้นที่ทำเพื่อเปิดโปงความจริงอันแสนน่ารังเกียจ มันจึงเป็นจุดสำคัญที่อาจทำให้ผู้คนนั้นหันมาเชียร์กลุ่มโจรชุดแรง ที่ใส่หน้ากากก็เป็นได้

ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด ภาค 2

ทำให้เราอินกับเนื้อเรื่องด้วยปมชีวิตของเกาหลี

ก็พอเข้าใจอยู่ว่า money heist korea season 2 พากย์ไทย ได้หาทางแก้ไขจุดบกพร่องในกระบวนการอย่าง โพสต์โปรดักชั่น ที่ได้ถูกวิจารณ์ไปในทางลบอย่างมากมาย ที่เห็นได้ชัดเลยคือวิธีการดำเนินเรื่องที่เปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควรไม่ว่าจะเป็นการใช้ดนตรีประกอบในฉากที่ระทึกใจเพื่อที่จะดึงอารมณ์ของผู้ชมไปอีกขั้นและยังมีฉากแอคชั่นที่ทำออกมาด้วยการพัฒนาความมันในสงครามจิตวิทยาที่สุดจะกดดัน

ในการใช้ความคิดของแถมระหว่างโจรกับตำรวจที่เป็นแผนแบบซ้อนแผนกันแบบคาดไม่ถึง และยังมีการเติมเต็มช่องว่างของจังหวะที่ช่วยให้บรรยากาศในเรื่องนั้นดูระทึกมากกว่าครึ่งแรกอย่างที่เรานั้นจะได้เห็นกันแบบชัดเจน ภาพรวมของ Production นั้นแม้จะไม่ได้สุดยอดถึงขั้นสุด แต่รับรองว่ามันไม่ได้แย่เลยกลับกันกลายเป็นทำออกมาได้ดีซะด้วยซ้ำเป็นมาตรฐานของซีรีย์ระดับนี้เลย

ในภาค 2 นั้นเมื่อต้องดำเนินเรื่องมาถึงการเปิดเผยภูมิต่างๆของตัวละคร เราจึงจะได้รับรู้รสชาติและกลิ่นอายดราม่า แนวชีวิตของซีรีย์อย่างเต็มอิ่ม ของแก๊งโจรที่มาจากคนละถิ่นฐานจากบ้านเกิดคนละที่ที่แต่ละคนนั้นต้องผ่านอุปสรรคต่างๆมากมายมาต่างกันและไม่มีใครน้อยกว่ากันเลย

นั่นแหละคือจุดที่ทำให้ซีรีย์นั้นต้องพยายามที่จะเล่นกับผมด้านแถวๆของตัวละครซ้ำไปซ้ำมาย้ำความสารพัดที่โหดร้ายที่มนุษย์อย่างเรานั้นไม่พร้อมจะรับมัน เพื่อที่จะเล่นกับความรู้สึกของคนดูและทำให้คุณรู้น้ำตาแตกเป็นระยะ ถึงแม้ว่าปัญหาคือการที่ตัวละครนั้นมีมากมายจึงทำให้เรารู้สึกว่าอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้างนั้น แต่ไม่ว่ายังไงถือว่าทำออกมาได้อย่างถูกที่ถูกทางและคมลบมากกว่าช่วงแรกอยู่ดี

ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด 2 นักแสดงฝีมือเทพถึงแม้ว่าการออกแบบบุคลิกตัวละครแต่ยังไม่ Perfect

สิ่งที่สังเกตได้ชัดในซีรีย์เรื่องนี้นั้นก็คงเป็นการที่ออกแบบคาแรคเตอร์ ขอตัวละครต่างๆก็พอเข้าใจอยู่ว่ามันเป็นปัญหาที่เจอกันมาตั้งนานอยู่แล้ว ตั้งแต่จุดเริ่มต้นการตีความของบุคลิกตัวละครและรวมถึงนิสัย หรือไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดต่างๆเรื่องจำนวนนักแสดงที่ยากต่อการแจกจ่ายบนให้โดดเด่นได้พอๆกัน มันจึงเป็นผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถสร้างภาพจากให้กับตัวละครในเรื่องได้สักเท่าไหร่

มันจึงทำให้คนดูนั้นไม่มีความรู้สึกว่าผูกพันกับตัวละครของเรื่องจนมีความเศร้าความสุขให้กับตัวละครมากนัก ขนาดยัดปมชีวิตต่างๆเข้าไปในตัวละครแล้ว หรือแม้แต่การที่ให้ตัวละครไปเจอเหตุการณ์ที่เสี่ยงตายจนมีคนตายขึ้นจริงๆ ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอที่จะทำให้เรานั้นรู้สึกหลงรักตัวละครแบบสุดๆในการกระทำต่างๆในเนื้อเรื่อง ที่มันเกิดขึ้นภายในโรงกษาปณ์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่นั้นซีรี่ย์เกาหลีจะทำออกมาได้อย่างดีเสมอ

ส่วนเล็กๆที่ขาดไปนั้นถึงแม้ว่าจะทำให้ตัวละครไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงมีนักแสดงมากฝีมือที่เป็น MVP ของเรื่องได้ทำให้เรื่องราวของภาพยนตร์ซีรีส์เรื่องนี้นั้นเดินหน้าไปต่อจนจบได้ โดยที่ผู้ชมนั้นไม่ติดเรื่องทักษะการถ่ายทอดของพวกเขาเลย แม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะคนสำคัญอย่าง ยูจีแท พัคแฮซู และ คิมยุนจิน ที่หลายๆคนและรวมถึงแฟนๆซีรีย์เกาหลี งั้นตอนปรบมือให้เขาในฐานะนักแสดงยอดเยี่ยม แม้ว่าจะเป็นบทดราม่าที่ลึกซึ้งจังหวัดไหนหรือแม้แต่ชาว Action ที่หนักพอสมควร ก็สามารถแบบไว้ได้อย่างกับฮีโร่ ในขณะเดียวกันที่นักแสดงโดดเด่นอย่าง จอนจงซอ กับ ฮีฮยอนอู สามารถแยกโมเม้นท์น่ารักๆก็ความรักช่วยเบรคความตึงเครียดของเรื่องราวในเนื้อเรื่องได้อย่างดี เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของนักแสดงแนวหน้ามาผสมกันได้ขนาดนี้ แต่ก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่หน่อยๆที่บทนั้นไม่มีการส่งเสริมให้หลายคนนั้นโดดเด่นมากเท่าไหร่ แต่เป็นที่รู้กันดีว่าต่อให้ยากสักแค่ไหนพวกเขานั้นก็ก้าวข้ามปัญหานั้นมาหมดแล้ว

แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้ยังคงเป็น series ที่นำมา Remake ใหม่ออกมาได้อย่างดีตามมาตรฐาน ด้วยเนื้อเรื่องที่ดำเนินการในการเปิดเผยข้อมูลด้านมืดของสังคมอย่างไม่ซ้ำซ้อนและนำเสนอประเด็นต่างๆที่อ่อนไหวของประเทศ น้ำต่างหากที่น่าสนใจของระบบทุนนิยมให้คนดูนั้นได้สงสัยและคิดกันอย่างต่อเนื่อง

ถือว่าเป็นงาน Production ที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวสามารถดูได้ อย่างสนุกสนานฉากบู๊สนุก อัดแน่นไปด้วยจิตวิทยาและยังมีฉากดราม่าที่ผสมผสานกันมาอย่างลงตัวถึงแม้ว่าจะยังไม่ค่อยดีขนาดนั้น แต่ Money Heist: Korea Season 1-2 เป็นซีรี่ย์อีกหนึ่งเรื่องที่อยากแนะนำให้ดู รับรองว่าไม่ผิดหวัง

Money Heist Korea Joint Economic Area Part 2

ความรู้สึกหลังดู Money Heist Korea-Joint Economic Area (2022)จบ

ผมคนนึงที่เคยดูเวอร์ชั่นสเปนมาแล้ว ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นของต้นฉบับ ถ้าหากไม่พูดความรู้สึกส่วนตัวแล้วล่ะก็ผมชอบเวอร์ชั่นสเปนซะมากกว่า โดยส่วนตัวนั้นตอนแรกผมก็ยังรู้สึกแบบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าผมนั้นยัง Move on จากเวอร์ชั่นของสเปนไม่ได้มั้ง ผมจึงรู้สึกว่าการดูของเวอร์ชั่นเกาหลีที่ Remake มา มันจึงไม่มีความเข้มข้นเท่าดูเวอร์ชั่นต้นฉบับสักเท่าไหร่

แต่พอผมดูจบในภาคแรก ที่มีทั้งหมด 6 ตอน ผมก็ต้องรอพระสอนต่อมันจึงทำให้ผมนั้นใช้เวลาในการลืมความรู้สึกของเวอร์ชั่นสเปนไปมากพอควร และถึงเวลาที่พัดส่งมานั้นมี 6 ตอนอีก ผมก็ตัดสินใจได้ว่าจะไปดูตั้งแต่ต้นให้ครบทั้ง 12 ตอนไปเลย

เอาจริงๆใกล้จะไปคิดว่าพอมาดูใหม่ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปจากที่ดูครั้งแรกเลย รู้สึกว่าผมชอบมากๆทั้งสนุกทั้งอารมณ์ต่างๆ มันเข้าถึงมากกว่าเดิม ถึงพ็อตเรื่องมึงเอามาจากต้นฉบับของเวอร์ชั่นสเปน แต่โดยรวมแล้วรายละเอียดต่างๆ ภูมิหลังรวมถึงนิสัยของตัวละครแต่ละตัวนั้นมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากเวอร์ชั่นต้นฉบับ อย่างชัดเจนเลยล่ะ

ครั้งนี้ผมจะมายกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเลย สำหรับตัวละครในเรื่องอย่างโตเกียว และ เบอร์ลิน

โตเกียว  สำหรับโตเกียวในเวอร์ชั่นสเปนนั้น เธอเป็นเพียงแค่โจรกระจอกที่ปล้นธนาคารธรรมดาทำอะไรก็ใช้อารมณ์ได้หมดไม่มีการวางแผนก่อนที่จะทำอะไรทั้งสิ้น

แต่สำหรับเวอร์ชั่นเกาหลีนั้น เธอเป็นเด็กสาวที่ได้รับการฝึกเป็นทหารมาก่อน มันจึงไม่แปลกที่เธอนั้นจะมีความสามารถด้านการใช้อาวุธและการต่อสู้ และมีการใช้สมอง มากกว่าที่จะใช้อารมณ์ อีกครั้งยังมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน ในการทำแผนปล้นเงินจำนวนมากในครั้งนี้ มันจึงเห็นได้จากว่าตัวละครในเวอร์ชั่นของเกาหลีนั้นและเธอชายและมีความเป็นผู้นำออกมาอยู่ตลอด

ส่วนเบอร์ลินนั้น ในเวอร์ชั่นต้นฉบับของสเปน เราจะยังเห็นภาพของเขาที่แท้จริงไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่ตามดูจนครบทั้ง 4 Season ก็จะเห็นได้เลยว่าผู้สร้างนั้นได้วางแผน คาแรคเตอร์ของ เบอร์ลิน ให้เป็นดั่งศิลปะ เป็นคนที่มองศิลปะในขั้นสูง โดยการที่เขาวางแผนต่างๆเปรียบเสมือนกับศิลปะชิ้นหนึ่งที่เป็นงานของเขา  และนั่นแหละอย่างที่บอกไป ในการปล้นแต่ละครั้งนั้นเบอร์ลินจะไม่สนใจเม็ดเงินที่เขาปล้นมาได้สักเท่าไหร่ แต่จะให้ความสำคัญกับงาน ศิลปะในฉบับปล้น ของเขาที่เป็นงานศิลปะขั้นสูงมากกว่า

การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ซีรีส์ ทรชนคนโลกเกาหลีพากย์ไทย 2  เรื่องนี้

Ok ครับต่อมาเราจะมาพูดถึงเรื่องของการดำเนินเรื่อง ในภาคแรกกันก่อนเลย เอาตรงๆข้อแรก ซีรีย์จะดำเนินเรื่องตามเวอร์ชั่นต้นฉบับมากพอควร แต่พอเข้าสู่ในภาค 2 นั้น ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินเรื่องในหลายๆจุดเลยก็ว่าได้มันจะแตกต่างจาก เวอร์ชั่นสเปนมากพอสมควร แต่ไม่ได้แปลว่าจะปรับเปลี่ยนไปในทางที่แย่แต่เป็นการปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีและเป็นแนวทางของภาพยนตร์ซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน มากยิ่งขึ้น

Money Heist Korea 2

บทสรุปข้อคิดที่ได้ จุดเด่น และ จุดด้อย

สรุปส่วนที่ชอบและเป็นข้อดีของซีรีย์

ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดอย่างหนึ่งคือ การที่เปิดเผย ให้เรานั้นเห็นปมในอดีตของตัวละครต่างๆ แค่คนดูอย่างเรานั้นเข้าใจ มันจึงทำให้เราทราบถึงความกดดันต่อไปเขาได้เจอมา และเป็นสิ่งที่ ตัวละครในเรื่องนั้นใช้ในการตัดสินใจในการทำสิ่งต่างๆ ขอตัวละครในเรื่องได้อย่างเห็นได้ชัด

แล้วมาถึงได้อีกส่วนที่ผมชอบมากที่สุด เช่นกัน จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้ คือการกล้าที่จะเอ่ยถึงเรื่องราวการเมืองและนักธุรกิจได้อย่างชัดเจนและต้องไปตรง รวมถึงการมีเนื้อหาที่แสดงถึงป้อมของสังคมได้อย่างเจ็บแสบและเข้มข้นเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกนำเสนอให้เห็นของ ระบบทุนนิยม คนที่มีอำนาจมียศและมีเงินเท่านั้น ที่จะเป็นผู้อยู่สูงสุดของวงจรชีวิตที่เป็นห่วงโซ่ โดยที่จะเล่าให้เห็นว่า คนรวยนั้นมีแต่รวยขึ้น ส่วนคนจนนั้นมีแต่จะจนลง แล้วโดนเอาเปรียบแทบจะทุกทางทุกอย่าง ที่เปลี่ยนเอาคืนประชาชนของเกาหลีเหนือนั้น เดินทางเข้าศูนย์เศรษฐกิจร่วม โดยที่เขาคาดหวังว่าการทำงานหาเงินในครั้งนี้จะทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่มันดันไม่ใช่กลับถูกมองและถูกเลือกเมตตาจากบุคคลชั้นที่ 2 ของประเทศ ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากจนและยากลำบาก

สรุปส่วนที่ไม่ชอบและเป็นจุดด้อยของซีรี่ย์

เป็นจุดที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า การแจ้งจ่ายบทให้ตัวละครในแต่ละตัว ไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไหร่ มีตัวละครมากมายหลายๆตัวละคร บางตัวนั้นแทบจะหายไปจากเรื่องเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ ตัวละครทุกตอนนั้นมีประเด็นหลายประเด็นให้นำเสนอและนำมาเล่นทั้งนั้น อีกทั้งบางตัวละครนั้น ยังมีความสำคัญกับในเรื่องที่เดินหน้า แต่กลับไม่ให้ความสำคัญบ้างเลย

บทสรุปการรีวิว

ถ้าให้พูดกันตามตรง ซีรีย์เรื่องเดี๋ยวก็มีความ สนุก ลุ้นระทึก แล้วมีฉากที่น่าตื่นเต้นหลายๆฉาก Character ก็ยังมีเสน่ห์ แต่มันก็ดันสู้ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่นของ Netflix อย่างเรื่อง vavabond ไม่ได้สักเท่าไหร่ และ Concept ที่ชอบ ของซีรีย์เรื่องนี้เลย ก็คงเป็นการพูดถึงเนื้อเรื่อง การรวมชาติระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ในทุกคนลองคิดดูว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันจะมีผลเสียและผลดี ต่อประเทศและประชาชนขนาดไหน และเป็นปัญหาระหว่าง 2 ประเทศอย่างไร

และข้อคิดที่ได้ จาก money heist korea season 2

ก็คือการที่เราอาจจะดูหน้าตา แต่เราไม่รู้ติดใจของคนคนนั้นจริงๆ ส่วนใครที่ดูมาแล้วลองเอามาพูดคุยกันนะครับว่าต้นฉบับและเวอร์ชั่น Remake เหมือนต้นฉบับหรือเปล่า และทำได้ดีไหม แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าเป็นคงไม่เหมือนต้นฉบับอย่างที่ทุกคนหวังเท่าไหร่ เพราะถ้ามันเหมือนจริงๆก็คงเป็นซีรีส์แบบเดิมแต่แค่เปลี่ยนสัญชาติก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้นั้นการรีวิวครั้ง เป็นเพียงการรีวิวโดยความคิดเห็นทรงตัว และไม่ได้ตั้งใจจะเปรียบเทียบกับต้นฉบับเต็มๆ ไม่ได้อยากจะไปเที่ยวเลยจริงๆนะ แต่ว่า มันก็ยังอดไม่ได้ฮ่าๆๆ ขอสักนิดนึงก็แล้วกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *